
CFD Analysis
พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) เป็นหลักสูตรต่อยอดจาก CAE Essentials เป็นการเรียนรู้แนวคิดและทฤษฎีที่อธิบายการไหลของของไหล 4 ประเภทสำหรับ CFD โดยเฉพาะ ซึ่งครอบคลุมถึงกฎการอนุรักษ์มวล, กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม, กฎการอนุรักษ์พลังงาน, เงื่อนไขขอบเขต, การจำลองโดยวิธีไฟไนต์เอเลเมนต์, การจำลองโดยวิธีไฟไนต์โวลุ่ม, คลื่นช็อก, ปัญหาที่พบในการวิเคราะห์ CFD, เปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่าง CFD กับคำตอบที่แม่นยำ, ปรากฏการณ์การเกิดการไหลแบบปั่นป่วน (Turbulence) และแบบจำลองการไหล ผู้เรียนควรมีพื้นฐานความรู้ด้าน CAE Essentials และวิธีการทางคณิตศาสตร์เชิงตัวเลข (Numerical Methods) ก่อนที่จะเรียนรู้หลักสูตรนี้

Motion Analysis
ภายใต้กระบวนการออกแบบ ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญประการหนึ่งคือการทำความเข้าใจประสิทธิภาพของระบบที่แท้จริง รวมถึงกระบวนการทางกล ทางไฟฟ้า และระบบย่อย ๆ อย่างอื่น หลักสูตรนี้จึงนำเสนอการจำลองการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกของชิ้นส่วน เพื่อคำนวณการรับแรงกระทำและการกระจายแรงทั่วทั้งระบบกลไก ช่วยให้สามารถคำนวณปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของการเคลื่อนไหว โครงสร้างชิ้นงาน และการควบคุมชิ้นงานได้ เรียนรู้การจำลองชิ้นงานแบบมัลติบอดี้ไดนามิก (MBD) ซึ่งมีความสามารถในการวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ที่ความซับซ้อนระหว่างกัน รวมถึงการเคลื่อนไหว โครงสร้าง การกระทำ และการควบคุม พร้อมศึกษากรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการตั้งค่าสภาวะเริ่มต้น (initial condition) ระบบสปริงแดมเปอร์ ระบบบังคับเลี้ยว ระบบกันสะเทือน และการใช้งานบูชยางอย่างเหมาะสม รวมถึงการใช้ฟังก์ชันการกระแทกและฟังก์ชันระดับ (step function) พร้อมกับการจำลองชิ้นงานที่มีความยืดหยุ่น เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงการออกแบบให้เหมาะสม สะดวกสบายและปลอดภัย

Heat Transfer and Thermal Stress Analyses
หลักสูตรการวิเคราะห์การถ่ายเทความร้อนและการเกิดความเครียดอันเกิดจากความร้อนนี้ เพื่อให้ผู้เรียนได้ทำการศึกษาถึงปัญหาของการถ่ายเทความร้อนซึ่งหมายถึงการขยายตัวและหดตัวของวัสดุที่เกิดจากความร้อนมากระทำ เรียนรู้กลไกพื้นฐานของการถ่ายเทความร้อนจากกรณีศึกษา โดยปรากฏการณ์เหล่านี้มักเกิดขึ้นในงานของการถ่ายโอนความร้อนในภาชนะและการถ่ายเทความร้อนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีรูปแบบการถ่ายเทความร้อนอยู่สามประเภท ได้แก่ การนำความร้อน (conduction) การพาความร้อน (convection) และการแผ่รังสี (radiation) โดยที่ค่าอุณหภูมิสมดุลที่ได้รับนั้นสามารถคำนวณได้เป็นค่าคงที่เชิงเส้น

Fatigue Life Analysis
การวิเคราะห์อายุของชิ้นงานอันเนื่องมาจากความล้าเป็นหลักสูตร CAE ที่ใช้วิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ (FEM) ในการวิเคราะห์ความเสียหาย อายุการใช้งาน ความล้าของผลิตภัณฑ์ในงานวิศวกรรมโครงสร้าง โดยผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมสามารถในการระบุอายุการใช้งานได้ครอบคลุมทั้งหมดของชิ้นงาน, การวิเคราะห์อายุของความเค้น (Stress life, S-N curve) บริเวณจุดเริ่มต้นของการเกิดรอยแตกร้าว, การวิเคราะห์อายุของความเครียด (Strain life, E-N) และบริเวณการเติบโตของรอยแตก ไปจนถึงหัวข้อเกี่ยวกับการทดสอบวัสดุ หลักสูตรนี้เป็นการวางรากฐานความเข้าใจเรื่องของอายุของโครงสร้าง เหมาะสำหรับวิศวกรในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ เครื่องจักรกล และอื่น ๆ

Introduction to Abaqus
หลักสูตรอบรมนี้เป็นการแนะนำแบบครบวงจรเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างโมเดลและการวิเคราะห์ของซอฟต์แวร์ SIMULIA Abaqus ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้เรียนที่ไม่มีประสบการณ์การใช้งานซอฟต์แวร์ Abaqus มาก่อน ผู้เรียนจะได้รับความรู้ในการแก้ปัญหาแบบเชิงเส้นและแบบไม่เป็นเชิงเส้นจากการทำกับรูปทรงเรขาคณิต การสร้างเมช การตั้งค่าแบบจำลองปัญหา การส่งผลและติดตามผลลัพธ์จากแบบจำลอง ไปจนถึงการดูผลลัพธ์การจำลองโดยใช้อินเตอร์เฟซของซอฟต์แวร์ Abaqus

Fitness for Service – The FEA Approach
เรียนรู้ข้อกำหนด Fitness for Service (FFS) กับการวิเคราะห์ปัญหางานโครงสร้าง และการประเมินอายุของภาชนะรับความดันด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ ซึ่งปกติการประเมินอายุของภาชนะรับความดันจะต้องได้รับการประเมินตามระยะเวลาการใช้งาน หากพบข้อบ่งชี้ความเสียหาย วิศวกรจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดมาตรฐาน เช่น ASME/API-579 Fitness for Service (FFS) ตามลำดับ ซึ่งในระดับที่ 3 มักใช้ระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ในการวิเคราะห์งานโครงสร้าง โดยอ้างอิงมาตรฐานการออกแบบ ASME BPVC.VIII part 5 เมื่อโครงสร้างความเสียหายมีรูปทรงและภาระที่สลับซับซ้อนวิศวกรจึงจำเป็นเรียนรู้วิธีนำซอฟต์แวร์ไฟไนต์เอลิเมนต์มาใช้ในการดูแล ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด

Basic Structural FEM
หลักสูตรวิเคราะห์โครงสร้างขั้นพื้นฐานวิธีการใช้งาน Finite Element Method (FEM) เรียนรู้เทคนิควิธีการวิเคราะห์โดยเน้นไปที่โครงสร้างแบบเชิงเส้นและการนำไปประยุกต์ใช้ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทฤษฎีพื้นฐานและฝึกทักษะการใช้ซอฟต์แวร์สร้างแบบจำลอง Finite Element แบบ 1 มิติ, 2 มิติ, และ 3 มิติ ในแบบต่าง ๆ พร้อมกับการใส่ค่าคุณสมบัติวัสดุ การกำหนดเงื่อนไขขอบเขต ซึ่งปัญหาแบบวิเคราะห์ค่าคงที่แบบเชิงเส้นและการโก่งงอจะถูกนำมาใช้เป็นแบบจำลองการวิเคราะห์เพื่อให้ผู้เรียนได้ทดลองปฏิบัติ

CAE Essentials
หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ General Purposed FEM series ซึ่งในเนื้อหาจะเป็นการแนะนำพื้นฐานของกระบวนการ CAE (Computer-Aided Engineering) การใช้วิธี Finite Difference Method (FDM) เพื่อการแก้ปัญหาทางวิศวกรรมและขั้นตอนเชิงตัวเลข สำหรับการแก้สมการพีชคณิตแบบเป็นเชิงเส้นและแบบไม่เป็นเชิงเส้น ผู้เรียนจะได้รับความเข้าใจเชิงแนวคิด การประมาณค่า และเทคนิคการอินทิเกรตเชิงตัวเลข ซึ่งผู้บรรยายจะเป็นผู้สอนการใช้โปรแกรมการทำแบบฝึกหัดเชิงตัวเลขอย่างเป็นขั้นตอน

CATIA Analysis
เป็นหลักสูตรต่อยอดการใช้งานโปรแกรม CATIA V5 เพื่อการวิเคราะห์ปัญหาทางวิศวกรรมด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ขั้นตอนทางไฟไนต์เอลิเมนต์ขั้นพื้นฐาน เริ่มจากการสร้างแบบจําลองในแบบ 1, 2, 3 มิติการกำหนดเงื่อนไขขอบเขตที่สมเหตุสมผล การวิเคราะห์ ไปจนถึงการแปลผลการวิเคราะห์ โดยหลังจากการอบรม ผู้เข้าอบรมจะสามารถใช้ CATIA V5 ในการออกแบบความแข็งแรงของโครงสร้างขั้นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในผลลัพธ์ที่ได้จากการคํานวณ เป็นหลักสูตรพื้นฐานที่จําเป็นสำหรับต่อยอดไปสู่การวิเคราะห์ขั้นสูง

CATIA Analysis Advanced
หลักสูตรนี้ประกอบด้วย (1) การวิเคราะห์โครงสร้างแบบไม่เชิงเส้น (ANL) และ (2) การวิเคราะห์เชิงความร้อน (ATH) การวิเคราะห์ทั้งสองแบบนี้ช่วยให้นักออกแบบสามารถขยายขีดความสามารถในการจำลองผลิตภัณฑ์ของตนภายใต้การเสียรูปของวัสดุ การแตกหัก ความร้อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นในการนำมาพิจารณาในกระบวนการออกแบบ หลักสูตรนี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีปฏิบัติตามกระบวนการ ทำความเข้าใจในเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ชิ้นส่วนและส่วนประกอบต่าง ๆ ด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ